Categories
good food

8 เมนูอาหารช่วยลดความดันโลหิตสูง

การเลือกทานอาหาร มีส่วนสำคัญมากในการช่วยลดความดันโลหิตสูงได้ดี การที่เราเลือกสรรทานอาหารที่มีประโยชน์และเหมาะสม แม้ว่าเราจะป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงแล้วก็ตามที ก็จะช่วยลดและควบคุมระดับความดันโลหิตของเราได้ดีขึ้น ในบทนี้จึงขอแนะนำเมนูอาหารที่ช่วยลดความดันโลหิตสูงได้มาฝากสำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูง และยังไม่ป่วยก็สามารถติดตามกันได้ ใครอยากทราบแล้วว่า มีเมนูอาหารอะไรบ้าง เรามาติดตามกันเลย

  1. กระเทียม นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่นิยมใช้ในการช่วยลดและควบคุมระดับความดันโลหิตกันในปัจจุบัน ได้มีผลการวิจัยค้นคว้าสรรพคุณของกระเทียม ในการช่วยลดระดับความดันโลหิตของกระเทียม  ได้ผลปรากฏออกมาว่า กระเทียมช่วยในการเพิ่มปริมาณสารไนตริกออกไซด์ในร่างกาย ซึ่งจะเข้าไปช่วยกระตุ้นหลอดเลือดให้เกิดการขยายตัว และส่งผลให้ระดับความดันโลหิตลดลงได้
  2. น้ำมันมะกอก เป็นไขมันดีที่อุดมไปด้วยสารโพลีฟีนอล (Polyphenols) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงมีระดับความดันโลหิตลดลงได้ แต่ว่าอย่างไรก็ตาม แม้ว่าน้ำมันมะกอกจะมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อผู้ป่วยความดันโลหิตสูงก็ตาม  แต่ถ้าหากเราบริโภคมากจนเกินไปอาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ดังนั้นควรทานในปริมาณที่พอสมควร
  • ดาร์กช็อกโกแลต เป็นช็อกโกแลตที่ประกอบไปด้วยโกโก้กว่า 60 เปอร์เซ็นต์ และมีน้ำตาลน้อยกว่าปกติ มีผลการศึกษาวิจัย พบว่า ผู้บริโภคดาร์กช็อกโกแลตมีระดับความดันโลหิตตัวบนลดลงโดยเฉลี่ยถึง 3 มิลลิเมตรปรอท ระดับความดันโลหิตตัวล่างลดลงโดยเฉลี่ยถึง 2 มิลลิเมตรปรอท การทานดาร์กช็อกโกแลตจึงอาจเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ช่วยลดระดับความดันโลหิตลงได้ และควรทานไม่เกิน 100 กรัมต่อวัน
  • ปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง อย่างเช่น ปลาแซลมอนปลาแมคเคอเรล ที่อุดมไปด้วยโปรตีนและกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีสรรพคุณช่วยลดระดับความดันโลหิต และลดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดได้
  • เมล็ดพืชและถั่ว เมล็ดพืช อย่างเช่น เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทองแบบไม่โรยเกลือ เต็มไปด้วยโพแทสเซียม แมกนีเซียม ใยอาหาร และสารพฤกษเคมีต่าง ๆ ซึ่งช่วยลดระดับความดันโลหิตได้ นอกจากนั้น ประเภทถั่ว ถั่วพิสตาชิโอ นั้นถือเป็นอีกหนึ่งอาหารที่มีสรรพคุณในด้านนี้ด้วยเช่นกัน
  • นมพร่องมันเนยและโยเกิร์ต ถือว่าเป็นแหล่งแคลเซียมที่ดี และมีไขมันต่ำอีกด้วย โดยมีผลการวิจัยของสมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริการะบุไว้ว่า จากการทดลองผู้หญิงที่รับประทานโยเกิร์ต 5 หน่วยบริโภคขึ้นไปต่อสัปดาห์ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคความดันโลหิตสูงได้ถึงร้อยละ 20 ทีเดียว แต่ว่าเราควรตรวจสอบปริมาณน้ำตาลที่เติมลงไปบนฉลากบรรจุภัณฑ์ก่อนที่จะซื้อมาทานทุกครั้งด้วย เนื่องจากการเติมน้ำตาลเข้าไปในปริมาณมากอาจกลายเป็นโทษต่อร่างกายมากกว่าที่จะเป็นประโยชน์
  • ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ เป็นต้น โดยเฉพาะบลูเบอร์รี่นั้นมีสารอาหารที่สำคัญอย่างสารฟลาโวนอยด์ (Flavoniods) ซึ่งมีงานวิจัยพบว่า การบริโภคบลูเบอร์รี่มีส่วนช่วยป้องกันความดันโลหิตสูง และลดระดับความดันโลหิตลงได้ด้วย
  • ผักใบเขียว ในผักใบเขียวที่เราทานมีโพแทสเซียมซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยเไตขับโซเดียมออกมาผ่านทางปัสสาวะ และปรับปริมาณโซเดียมภายในร่างกายให้เกิดความสมดุล ทำให้ระดับความดันโลหิตลดลงได้ โดยผักใบเขียวที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียม เช่น ผักกาด คะน้า

ปวยเล้ง เป็นต้น

นี่ก็คือ 8 เมนูอาหารที่ช่วยลดระดับความดันโลหิตสูงได้ ใครที่โป่วยเป็นความดันโลหิตสูงอยู่ ลองนำไปเป็นเมนูที่เลือกทานในแต่ละมื้อกันดู แล้วในบทหน้าเรามาพบกันใหม่กับเรื่องสุขภาพที่จะนำมาฝากกันต่อได้อีกในทุกสัปดาห์จะนำเรื่องสุขภาพอะไรมาฝากกันอีก ต้องติดตาม

ติดตามบทความ good food ในทุกสัปดาห์ได้ที่ howto-healthy.com

Categories
good health

เสพติดซีรีย์ อันตรายต่อสุขภาพโดยตรง 

การดูซีรีย์แบบไม่รู้จบ เป็นเรื่องราวที่น่ากังวลใจสำหรับคนไทยยุคสมัยใหม่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะหนังที่เรื่องยาวในการดูตอนที่คุณว่าง และพักผ่อน คุณเชื่อไหมว่าประมาณ 80% ถ้าหากเป็นผู้ที่ดูหนังซีรีย์อย่างชื่นชอบมักจะไม่ดูเรื่องเดียว ซึ่งกินเวลาพักผ่อนเป็นจำนวนมาก และทำให้ใครหลาย ๆ คนนั้น ถูกขโมยสุขภาพไปโดยไม่รู้ตัว และนี่ก็คืออาการที่จะเกิดขึ้นสำหรับร่างกายของคุณ ถ้าหากคุณดูซีรีส์เรื่องโปรดของคุณมากเกินไป 

1. ดูซีรีย์มากจนเกินไป 2 ชั่วโมงยังไม่จบ 

สำหรับท่านใดที่ดูหนังซีรีย์แบบระยะยาว 2 ชั่วโมงยังไม่จบ ขอบอกเลยว่าคุณนั้นควรจะตั้งเวลา เพื่อที่จะให้ร่างกายของคุณพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ คุณทราบไหมว่าอาการแบบนี้ อาจจะทำให้ระบบการทำงานของคุณในร่างกายนั้นทำงานแปรปรวน และร่างกายทรุดโทรมก่อนวัยอันควรได้ ซึ่งเราอยากจะแนะนำให้คุณนั้นพยายามหาช่วงเวลาพักผ่อนให้มากยิ่งขึ้น อย่างน้อยคุณควรจะใช้ชีวิตเพื่อสุขภาพ

ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารที่มีประโยชน์ และตรงเวลา หรือจะเป็นการพักผ่อนที่เพียงพอกับร่างกาย รวมไปถึงการออกกำลังกายในช่วงเวลาต่าง ๆ เป็นส่วนช่วยให้ร่างกายคุณนั้นแข็งแรงได้มากขึ้นเช่นเดียวกัน ดีกว่าคุณจะไปนั่งดูซีรีย์ 2 – 3 ชั่วโมงต่อเนื่องกัน ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างแท้จริง 

 2. ทำให้จอประสาทตา และระบบการทำงานทางด้านสมองแปรปรวน 

คุณเคยคิดไหมว่าช่วงเวลาที่คุณดูหนังซีรีย์ระยะเวลานาน ในบางครั้งคุณเริ่มรู้สึกอ่อนล้าทางด้านดวงตา และระบบการทำงานของระบบประสาทรวมถึงสมองนั้นแปรปรวน เหตุการณ์เหล่านั้นมีผลงานวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์อ้างอิงเป็นจำนวนมาก ที่กล่าวอ้างว่าระบบการทำงานของร่างกายจะทำงานมากจนเกินไป

ซึ่งเป็นระบบการสั่งการที่สมองของคุณรับข้อมูลข่าวสาร และภาพเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดอาการอ่อนล้าอ่อนเพลียได้ของทั้งดวงตา และระบบประสาทรวมถึงสมอง เพราะฉะนั้นถ้าหากเกิดปัญหาเหล่านั้นขึ้นคุณควรหยุดการดูซีรีย์ระยะยาวไปสักระยะ ร่างกายคุณจะกลับมาสุขภาพดีขึ้นเอง 

3.ส่งผลกับระบบกระเพาะอาหาร และทำให้คุณอ้วนได้ 

สิ่งนี้เป็นอีกหนึ่งอย่างที่คุณอาจจะแทบไม่เชื่อเลยว่ามันเกิดขึ้นได้จริง คือการดูหนังซีรีย์ในระยะเวลาที่ยาวนาน สามารถส่งผลโดยตรงต่อกระเพาะอาหารของคุณได้ และสามารถทำให้คุณอ้วนได้อีกด้วย ร่างกายของคุณนั้นในเวลาช่วงตอนกลางคืนหรือช่วงยามเวลาว่าง ระบบการทำงานในร่างกายคุณต้องการการพักผ่อนเพื่อจะเผาผลาญไขมันส่วนเกิน

หรือปรับสมดุลของร่างกาย คนส่วนใหญ่ที่ดูหนังซีรีย์เป็นระยะเวลายาวนานก็คงจะไม่ได้สนใจเรื่องนี้ ระบบการเผาผลาญน่าจะทำงานได้แย่ลง และทำให้คุณเกิดปัญหาทางด้านความอ้วน และไขมันสะสมได้เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นคุณควรระวัง 

ความจริงสำหรับการดูหนังซีรีส์ในปัจจุบัน ถ้าคุณดูอย่างถูกต้อง และไม่ใช้เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตของคุณนั้นไปกับหนังเหล่านั้น จะสามารถช่วยให้คุณสุขภาพดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว หวังว่าทุกคนนั้นคงจะเข้าใจ และคำนึงถึงสุขภาพของตัวเอง 

ขอขอบคุณภาพจาก https://pixabay.com/

ติดตามบทความ good health ในทุกสัปดาห์ได้ที่ howto-healthy.com

Categories
good health

รู้ไว้สมุนไพรคู่ครัวไทย เคล็ดลับการดูแลสุขภาพทางอ้อม ในยุค covid 19 

ถ้าหากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่สนใจทางด้านสุขภาพของตัวเอง และคนในครอบครัว อยากจะแนะนำให้คุณนั้น ลองพึ่งพาสมุนไพรภายในครัวของคุณเอง ใช่แล้วเครื่องเทศเครื่องต้มยำเหล่านี้สามารถช่วยคุณได้ อย่างน้อยก็มีประโยชน์ทางอ้อมในการช่วยดูแลสุขภาพในยุคโควิค อันนี้เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มากจาก ภญ.ดร.ผกากรอง ขวัญข้าว หัวหน้าศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ด้านการแพทย์แผนไทย และสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ที่ให้ข้อมูลในการดูแลตัวเอง

1. สมุนไพรไทยที่ช่วยดูแลสุขภาพ ในช่วงยุค covid-19 

สมุนไพรที่เหมาะมากสำหรับการดูแลสุขภาพในช่วงนี้ คือ สมุนไพรใกล้ตัว ที่หาได้ง่าย ๆ อยู่ในครัวกับเครื่องต้มยำไม่ว่าจะเป็น ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ซึ่งสมุนไพรเครื่องต้มยำเหล่านี้จะมีส่วนช่วยดูแลสุขภาพคุณได้เป็นอย่างดี และยังช่วยทำให้คุณนั้นรู้สึกถึงระบบการเผาผลาญ และขับถ่ายได้ดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งทางการแพทย์ก็ยังแนะนำให้รับประทานเป็นประจำโดยเฉพาะยุค covid 19 ในช่วงนี้ คุณก็ต้องคอยบำรุงร่างกาย อย่างน้อยก็ช่วยทำให้คุณสุขภาพดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน 

2. สมุนไพรช่วยบรรเทาอาการ และช่วยแก้ไขปัญหาทางอ้อมเกี่ยวกับ ผู้ติดเชื้อ 

สำหรับสมุนไพรเหล่านี้ จะช่วยให้ระบบในร่างกายคุณแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถนำมาต้มสูดดมก็ได้หรือจะนำมาประกอบอาหาร และรับประทานก็ได้เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น ขิง กระชาย ข่า ตะไคร้ หัวหอม ใบกระเพรา ซึ่งจะสามารถช่วยทำให้คุณนั้นรู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น และช่วยทำให้คุณหายใจสะดวก และลดอาการวิงเวียนได้มากกว่าเดิมเลยทีเดียว นอกเหนือจากนี้ก็คงจะเป็นฟ้าทะลายโจร ที่สามารถช่วยเหลือคุณได้ ซึ่งอยากแนะนำให้รับประทานเป็นประจำ 

3. เครื่องดื่มที่ควรจะดื่มเป็นประจำไม่ว่าจะมีอาการป่วยหรือไม่ ควรจะต้องบำรุง ในยุคโควิด 

สำหรับเครื่องดื่มที่เหมาะมากที่สุดในช่วงนี้ ในยุคCovid 19 กำลังครองเมือง อยากจะแนะนำเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพและบำรุงร่างกายได้ทุกวันไม่ว่าจะเป็น 

  • ชาเขียวสมุนไพรถ้าหากเป็นชาในรูปแบบชงเองได้ไม่ใส่น้ำตาลก็จะดีมาก ซึ่งสามารถช่วยดูแลสุขภาพของคุณได้มากเลยทีเดียว 
  • น้ำสะอาดควรจะดื่มให้มาก และควรจะเป็นน้ำอุณหภูมิห้องไม่ใช่น้ำเย็น จะสามารถช่วยลดอาการอ่อนเพลียและเหนื่อยล้าได้ควรจะดื่มอย่างน้อย 6 – 7 แก้วต่อวัน 
  • น้ำผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ คุณสามารถหาดื่มได้ตามปกติทั่วไป แต่ถ้าหากหาได้ยากก็แนะนำเป็นน้ำผลไม้กล่องก็ได้ ซึ่งได้รับคุณค่าสารอาหารน้อยกว่าหน่อยแต่ก็ดีเช่นเดียวกัน 

สรุป 

ช่วงนี้โรค covid-19 จะเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ใครหลายคนนั้นหันมาดูแลสุขภาพตัวเอง มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม อยากให้คุณนั้นหันมารับประทานอาหาร และการบำรุงร่างกายเช่นเดียวกัน เพราะว่าสิ่งเหล่านี้ป้องกันเอาไว้ก่อนที่จะมีปัญหา จะเป็นวิธีการที่ดีที่สุด และอยากให้ทุกคนนั้นสุขภาพแข็งแรงอีกด้วย อย่าลืมนำไปใช้นะดีมาก ๆเลยแล้วเจอกันผู้รักสุขภาพทุกคน 

ขอขอบคุณภาพจากhttps://pixabay.com/

ติดตามบทความ good health ในทุกสัปดาห์ได้ที่ howto-healthy.com

Categories
good food

10 คุณประโยชน์ของ “ กีวี” สุดยอดของผลไม้

กีวี ชื่อของผลไม้ชนิดหนึ่งเปลือกผลสีเขียวหม่นๆ เนื้อในสีเขียวสดกว่าเปลือกภายนอก เป็นผลไม้จากต่างประเทศ ที่มีขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปในเมืองไทย ราคาอาจจะแพงสักหน่อย แต่ก็ไม่ได้แพงจนเกินที่เราจะซื้อมาทานกันได้ ส่วนใหญ่แล้วนิยมทานเป็นผลไม้สดๆปอกเปลือกหั่นเป็นชิ้นแว่นบางๆแช่เย็นไว้ทาน และก็มีการนำไปปั่นเป็นน้ำกีวีใส่น้ำแข็งปั่นเย็นๆอร่อยชื่นใจไปอีกแบบ บทนี้จึงขอนำคุณประโยชน์ของกีวีมาฝากกัน ใครที่ชอบทานกีวี อยากทราบแล้ว เรามาติดตามกันเลย

  1. กีวีช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลร้าย แอลดีแอล ( LDL Cholesterol)และไตรกลีเซอไรด์ในเลือด แล้วยังช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี เฮชดีแอล (HDL Cholesterol)ให้แก่ร่างกายของเราได้อีกด้วย จึงมีส่วนในการช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจให้แก่เราได้ด้วย
  2. ในปริมาณกีวี 100 กรัม มีวิตามินซีสูงถึง 105 มิลลิกรัม เชื่อไหมว่ากีวีมีวิตามินซีสูงกว่าส้มถึง 3 เท่า การที่เราทานกีวีจึงช่วยในการป้องกันโรคหวัดหรือโรคภูมิแพ้ได้ และยังมีส่วนในการช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ทำให้สุขภาพของเราแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
  3. ในกีวีมีสารลูทีนและซีแซนทีนอยู่ด้วย จึงสามารถช่วยในการลดความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคทางสายตาได้ เช่น ป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อม ลดความเสื่อมของเซลล์ดวงตา ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคต้อกระจก ป้องกันโรคต้อกระจก โรคจุดรับภาพเสื่อม และตาฝ้าฟาง เป็นต้น
  • กีวีเป็นผลไม้ที่มีกากใยอยู่ในปริมาณสูงและให้พลังงานต่ำ โดยกีวี 100 กรัม ให้พลังงานแก่ร่างกายเพียงแค่ 55 แคลอรี่ การที่เราทานกีวีจึงสามารถช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี และนอกจากนี้กีวียังมีแร่ธาตุ วิตามินและไฟเบอร์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกหลายอย่าง
  • การที่เราทานกีวีจะช่วยทำให้เรานอนหลับได้ง่ายขึ้น ด้วยเหตุที่กีวีมีสารเซโรโทนินที่จะมีส่วนในการช่วยให้เราสามารถนอนหลับได้อย่างสบายมากขึ้น เพราะว่าสารที่ชื่อเซโรโทนินนี้จะช่วยคลายความเครียด ลดความวิตกกังวลต่างๆให้แก่เราได้นั่นเอง
  • กีวี 100 กรัม มีโพแทสเซียมสูงถึง 312 มิลลิกรัม การทานกีวีจึงสามารถช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจได้ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดความดันโลหิต โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดอีกด้วย
  • ในน้ำมันเมล็ดกีวี จะมีกรดไขมันโอเมก้า 3 อยู่จึงมีสรรพคุณช่วยในการลดคอเลสเตอรอล ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดแข็งตัว ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบและป้องกันโรคหัวใจได้ด้วย
  • กีวีมีสารต้านอนุมูลอิสระ ทั้งสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ แคโรทีน ลูทีน แซนทีน จึงช่วยต้านมะเร็งและยับยั้งเซลล์มะเร็งชนิดต่างๆ มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้
  • กีวีเป็นผลไม้ที่มีใยอาหารอยู่สูง จึงช่วยในการกระตุ้นระบบขับถ่ายได้ ทำให้อุจจาระนิ่ม ใยอาหารจะช่วยป้องกันท้องผูก โรคริดสีดวงทวาร และป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย
  • ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ควรทานกีวี เพราะว่ากีวีมีโฟเลตซึ่งดีต่อทารกในครรภ์โฟเลตเป็นสารอาหารที่จำเป็นอย่างมากสำหรับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์

ทั้งหมดนี้คือ 10 คุณประโยชน์สุดยอดของผลไม้ที่ชื่อกีวี ที่นำมาฝากกันในบทนี้ ใครที่ไม่ค่อยได้ซื้อกีวีมาทาน หรือว่าไม่ชอบทาน ลองหาซื้อมาทานกันดู แล้วในบทหน้าเรามาพบกันใหม่ได้ในทุกสัปดาห์กับเรื่องสุขภาพที่จะนำมาฝากกัน จะเป็นเรื่องอะไร ต้องคอยติดตามกันต่อ

ติดตามบทความ good food ในทุกสัปดาห์ได้ที่ howto-healthy.com

Categories
good health

ทำร้ายตัวเองทางอ้อม 3 พฤติกรรม ไม่ควรทำในช่วงกักตัวอยู่กับบ้าน 14 วัน 

อันที่จริงเราต่างก็รู้ดีแก่ใจว่าช่วงนี้ประเทศไทยนั้นย่ำแย่เป็นอย่างมาก จากวิกฤตปัญหาเรื่องเชื้อไวรัสระบาด covid-19 หลายคนก็ต้องทำงาน work from home อยู่กับบ้าน หรือบางคนแย่หน่อยก็ตกงานเลยก็มี แต่เชื่อไม่ว่าหลายคนอาจจะพบเจอแย่ที่สุดก็คือกักตัวอยู่บ้าน 14 วัน การดูแลสุขภาพของหลาย ๆ คนนั้น ผิดเพี้ยนไปจากปัจจุบันอย่างมากมาย อยากนำคำแนะนำของคุณหมอมาเตือน เพื่อจะได้ป้องกันโรคแทรกซ้อนในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็น

1. ตามใจปากโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด และความอ้วน ถามหาจ้า 

สำหรับเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กแต่อย่างใด เป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับนิสัยคนไทยที่ได้พักผ่อนอยู่กับบ้านอย่างแท้จริง ถ้าใครไปทำงานเป็นประจำก็จะรู้ดีว่า สามารถออกกำลังกายได้ในช่วงเวลา ต่าง ๆ ในการทำงาน 

คุณอยู่บ้านสำหรับใครหลาย ๆ คนแล้วจะได้ช่วงเวลาที่ตามใจปาก ซึ่ง 10 – 15 วันนี้ไม่มีอาการป่วยคุณก็จะเป็นโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดหรือน้ำหนักขึ้นอย่างแน่นอน จึงอยากแนะนำให้พยายามออกกำลังกายเบา ๆ อยู่ที่บ้าน และงดอาหารที่มีไขมันสูง จะสามารถช่วยทำให้คุณลดความเสี่ยงเรื่องหลอดเลือดหัวใจหรือไขมัน รวมไปถึงความอ้วนได้มากพอสมควรเลยทีเดียว 

2. นอนน้อยกว่าปกติ เปลี่ยนแปลงนาฬิกาชีวิต แค่คิดก็พังแล้ว 

ในช่วงมีเวลาการพักผ่อนเยอะ หลายคนก็คงจะคิดว่าอยู่ที่บ้านหรือที่อาศัยก็คงไม่จำเป็นจะต้องห่วงอะไรกับการเดินทาง หรือการกินอยู่ จนละเลยเวลาการพักผ่อนปกติทั่วไป และทำให้นาฬิกาชีวิตคุณแปรปรวน สิ่งเหล่านี้สามารถทำให้คุณนั้นบั่นทอนสุขภาพตัวเองทางอ้อมได้ คุณควรจะนอนพักผ่อนให้ตรงต่อเวลา เพื่อจะดูแลสุขภาพแล้วฟื้นร่างกายให้แข็งแรง จะทำให้คุณมีภูมิต้านทานต่อโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ได้โดยเฉพาะ วิกฤตเรื่องเชื้อไวรัสที่แวดล้อมเราอยู่ตลอดเวลา 

3. งดอาหารเช้าหนักอาหารดึกชีวิตพังแน่ 

ความจริงที่น่าสะพรึงกลัวสำหรับการรับประทานอาหารที่ผิดปกติ คือ การรับประทานอาหารตามใจตัวเอง สิ่งนี้สามารถทำให้คุณเจ็บป่วยได้ในอนาคต 

โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงจะทำให้ร่างกายนั้นอ่อนแอลงเป็นอย่างมาก แล้วยังส่งผลต่อภูมิคุ้มกันในร่างกายอีกด้วย อยากจะแนะนำให้คุณรับประทานอาหารให้ตรงต่อเวลาในช่วงนี้ โดยเฉพาะอาหารเย็นควรจะรับประทานให้น้อยลง แล้วควรจะรับประทานก่อน 18 : 00 น. จะทำให้คุณย่อยอาหารได้เต็มประสิทธิภาพ และช่วยในการดูดซึมสารอาหารได้อีกด้วย 

สรุป 

ช่วงเวลา 14 วันนี้หลายคนก็คงจะคิดว่ามันน่าเบื่อพิลึก ถ้าหากเราจะต้องทำตามกฎระเบียบทุกอย่างตลอดเวลาเหล่านี้ แต่เชื่อเถอะว่าสามารถช่วยดูแลสุขภาพของคุณได้จริง แถมถ้าคุณไม่ได้มีปัญหาสุขภาพอะไรก็จะทำให้สุขภาพคุณแข็งแรงยิ่งกว่าเดิม อารมณ์เหมือนกันปรับปรุงการทำงานของร่างกายครั้งใหญ่ บอกเลยว่ามีประโยชน์กับสุขภาพ และชีวิตคุณในอนาคตต่อไปอย่างแน่นอน เอาล่ะขอให้ทุกคนโชคดี 

ขอขอบคุณภาพจากhttps://pixabay.com/

ติดตามบทความ good health ในทุกสัปดาห์ได้ที่ howto-healthy.com

Categories
good health

ถ้าใครมีปัญหาสุขภาพเหล่านี้ ควรหลีกเลี่ยงกาแฟ

การดื่มกาแฟหลายคนก็คงจะคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติสำหรับคนไทย โดยเฉพาะคอกาแฟที่ดื่มเครื่องดื่มเพื่อความสดชื่น และกระตุ้นร่างกายเป็นประจำ แต่ว่าคุณทราบไหมว่าโรคภัยไข้เจ็บหลายอย่างที่เราเพิ่งเป็นหรือพึ่งมีอาการเหล่านี้ไม่เหมาะกับการดื่มกาแฟสักเท่าไร โดยเฉพาะถ้าคุณดื่มแบบต่อเนื่องกันเป็นประจำก็อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพคุณอย่างร้ายแรงได้ เพราะฉะนั้นอยากจะแนะนำผู้ที่มีอาการเหล่านี้ให้หลีกเลี่ยง เครื่องดื่มประเภทกาแฟ ชา และคาเฟอีน ซึ่งจะสามารถช่วยทำให้ปัญหาสุขภาพของคุณนั้นดีขึ้นทันตาเห็นอย่างแน่นอน 

1. อาการความดันโลหิตสูง ไม่ควรดื่มกาแฟโดยเด็ดขาด 

ถ้าหากคุณถูกวินิจฉัยด้วยทีมงานทางการแพทย์ บอกว่าคุณนั้นมีปัญหาทางด้านสุขภาพเกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูง ขอแนะนำให้คุณนั้นพยายามอย่าดื่มกาแฟ และควรจะหลีกเลี่ยงโดยด่วน ซึ่งบอกได้เลยว่ากาแฟนั้นจะส่งผลโดยตรงต่อระบบโลหิตในร่างกายของคุณ จะทำให้ระบบการไหลเวียนเลือดในร่างกายคุณนั้นทำงานมากผิดปกติยิ่งขึ้น ซึ่งบอกเลยว่าไม่ได้ส่งผลดีกับการควบคุมความดันโลหิตสูงตามที่คุณหมอบอกอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นแล้วจึงอยากแนะนำให้คุณพยายามหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มคาเฟอีน และกาแฟโดยทันทีเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพในอนาคตของคุณ 

2. ปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับอาการนอนไม่หลับ ไม่ควรดื่มคาเฟอีนโดยเด็ดขาด 

สำหรับเครื่องดื่มชา และกาแฟ สำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ โดยเฉพาะอาการนอนไม่หลับ คุณก็ควรจะดูแลเอาใจใส่สุขภาพของตัวเองเป็นพิเศษ พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มชา กาแฟ และคาเฟอีน 

ซึ่งเครื่องดื่มเหล่านี้สามารถช่วยกระตุ้นทำให้คุณนั้นนอนหลับได้ยากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งบอกได้เลยว่าจะส่งผลเสียต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก และสำหรับใครที่มีอาการในลักษณะนอนไม่ค่อยหลับ ขอแนะนำให้คุณดื่มนมอุ่น ๆ หรือน้ำผลไม้ จะช่วยได้มากเลยทีเดียว จะดีกว่าการดื่มกาแฟอย่างแน่นอน 100% 

3. ผู้ที่เข้าสู่วัยทองมีอาการกระดูกพรุน ห้ามดื่มกาแฟโดยเด็ดขาด 

สำหรับการดื่มกาแฟชาคาเฟอีนเป็นประจำ สำหรับผู้ที่มีปัญหาทางด้านกระดูกพรุนหรือช่วงฮอร์โมนที่เข้าสู่วัยทอง ขอแนะนำให้คุณพยายามงดหรือว่าพยายามลดคาเฟอีนเหล่านั้นลง 

เนื่องจากในปัจจุบันมีงานวิจัยที่กล่าวอ้างข้อมูลออกมาโดยตรง ได้พูดถึงคาเฟอีนว่าเป็นสารอีกตัวหนึ่งที่ลดอัตราการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกาย และวิตามินดีก็จะดูดซึมได้น้อยลงเช่นเดียวกัน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในลักษณะนี้ไม่ได้ส่งผลดีกับกระดูกและฮอร์โมนสักเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นคุณควรพยายามลดกาแฟชาคาเฟอีนเหล่านี้ลง 

เห็นแบบนี้ชา คาเฟอีน และกาแฟ ก็มีประโยชน์อยู่บ้าง แต่ในบางครั้งคุณก็ต้องเข้าใจการทำงานของร่างกายด้วย เพราะบางสิ่งบางอย่างการดื่มแบบต่อเนื่องกันเป็นประจำ จนถึงช่วงเวลาที่ป่วยนั้นก็อาจจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี ซึ่งคุณก็ควรจะนำข้อมูลเหล่านี้ไปดูแลตัวเอง เพราะว่าจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ และการดูแลร่างกายของคุณอย่างแน่นอน 

ขอขอบคุณภาพ https://pixabay.com/

ติดตามบทความ good health ในทุกสัปดาห์ได้ที่ howto-healthy.com

Categories
good health

เคล็ดไม่ลับป้องกันมะเร็ง

     ในชีวิตคนเราอาจมีโอกาสสัมผัสสารก่อมะเร็งโดยที่เราเองยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ เช่น สารอะฟลาทอกซิน ในอาหารแห้งอย่างมันสำปะหลัง พืชผัก ผลไม้ที่ปนเปื้อนยาฆ่าแมลง อาหารที่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ อย่างปาท่องโก๋ มลพิษทางอากาศ ปัจจัยทางพันธุกรรมก็มีส่วนเกี่ยวข้อง

แม้กระทั่งผู้ที่ไม่ได้สูบบุหรี่โดยตรง ยังมีโอกาสเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งปอด การทานผักผลไม้ที่ไม่ได้ปลอดสารพิษ ยาฆ่าแมลง และพยาธิ แม้แต่ข้าวกล้อง ธัญพืชต่างๆ ต้องเลือกสรรอาหารที่มีประโยชน์และมีคุณภาพก่อนรับประทานกันด้วยนะคะ

Cr.pic;freepik.com

  – หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงและสารก่อมะเร็ง  ปัจจุบันคนเราใช้ชีวิตเร่งรีบ ทำให้ผู้คนนิยมซื้ออาหารสำเร็จรูป อาหารจานด่วน กับข้าวถุง ซึ่งอาจปนเปื้อนสารที่ไม่ปลอดภัยต่อร่างกาย เช่น อาหารที่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ เช่น ปาท่องโก๋ ทอดมัน ถุงพลาสติกที่ใช้บรรจุ ผักที่ไม่ล้างให้สะอาด กล่องโฟมที่ถูกความร้อนของอาหาร อาจมีสารปนเปื้อนออกมา อาหารผสมสีสังเคราะห์ ที่รับประทานไม่ได้ อาหารปิ้งย่าง ไหม้เกรียม

– อะฟลาทอกซิน  เป็นสารพิษที่ปนเปื้อนมาในอาหารแห้ง เช่น ข้าวโพด มันสำปะหลัง  และสารนี้ไม่สามารถถูกทำลายโดยการปรุงสุกด้วยความร้อน ทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งตับได้ และสารไนโตรซามีน เกิดจากการทานเนื้อสัตว์หมักที่ไม่สุก สารที่ปนเปื้อนดินประสิว มีส่วนช่วยให้เนื้อสัตว์แดง เช่น แหนม ไส้กรอก กุนเชียง แต่สารนี้สามารถหายไปได้ เมื่อนำไปปรุงสุกด้วยวิธีการต่างๆ

Cr.pic;freepik.com

– ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ การดื่มเหล้าบ่อยๆจะทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งตับแข็งได้ และการสูบบุหรี่ หรือได้รับควันบุหรี่เป็นประจำโดยที่เราไม่ได้สูบนั้นทำให้เสี่ยงเกิดมะเร็งปอด และมะเร็งกล่องเสียงได้ แต่ผู้ที่ไม่ได้สูบบุหรี่ ก็เสี่ยงเป็นมะเร็งปอดได้ เพราะมีปัจจัยอื่นๆที่ทำให้เกิด

– อันตรายจากการทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมแร่ใยหิน เช่น อุตสาหกรรมก่อสร้าง ทำให้มีโอกาสสูดดมสะสมในปอดทีละน้อย และร่างกายไม่สามารถกำจัดสารเหล่านี้ออกไปได้ ทำให้มีโอกาสเป็นโรคมะเร็งปอดได้ในอนาคตและโรคแอสเบสโตซีสได้ในอนาคต แสงแดด การถูกแสงแดดนานๆ อาจทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้

Cr.pic;freepik.com

– หมั่นสังเกตความผิดปกติของร่างกาย เป็นการป้องกันระดับหนึ่ง เช่น คลำพบก้อนผิดปกติในร่างกาย ตกขาวปริมาณมากและผิดปกติ มีเลือดกะปริบกะปรอยที่ไม่ใช่ประจำเดือน การขับถ่ายผิดปกติ เช่น ท้องผูกสลับท้องเสีย

 นอกจากนี้ควรตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งต่อมลูกหมาก พันธุกรรมก็มีส่วนเกี่ยวข้อง พฤติกรรมเสี่ยงทิอาจก่อให้เกิดมะเร็ง เช่น การมีคู่หลายคน เช่น คนที่เป็นหูดหงอนไก่ เสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูก ไอเรื้อรังเกิน 3 สัปดาห์ น้ำหนักลดผิดปกติและเบื่ออาหาร การติดเชื้อเอชไอวี เป็นต้น

ติดตามบทความ good health ในทุกสัปดาห์ได้ที่ howto-healthy.com

Categories
good health

กฎเหล็ก ป้องกันกระดูกเสื่อม

   กระดูกเสื่อม ภัยเงียบที่มาพร้อมตัวเลขของอายุที่เพิ่มขึ้น แล้วเราควรป้องกันภาวะกระดูกเสื่อม ด้วยวิธีไหนกันดีหล่ะ ไม่ว่าจะเป็นการหลีกเลี่ยงอิริยาบถที่มีแรงกดข้อ เช่น การแบกของหนัก การจัดสิ่งแวดล้อมให้เป็นระเบียบ และอื่นๆอีกมากมาย วันนี้เราจะพาทุกคนไปหาคำตอบในการป้องกันกระดูกเสื่อมกันค่ะ

Cr.pic; https://www.khonkaenram.com/

1. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ การออกกำลังกาย เป็นวิธีช่วยป้องกันกระดูกเสื่อมที่ง่ายที่สุด ควรเลือกเป็นการออกกำลังกายแบบทรงคิวหรือแบบสร้างสมดุล เพื่อกระตุ้นการสร้างมวลกระดูกและเสริมให้กระดูกแข็งแรง รวมถึงออกกำลังกายเสริมสร้างกล้ามเนื้อบริเวณข้อต่อต่างๆ ก็ข้อเสื่อมได้

Cr.pic; https://www.khonkaenram.com/

2.ทานอาหารบำรุงข้อ มีอาหารหลายชนิดที่ได้จากวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น ปลาแซลมอน อัลมอนด์ แครอท แอปเปิ้ล น้ำมันมะกอก ที่ช่วยลดข้อเสื่อม นอกจากนี้ควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ทานอาหารที่มีแคลเซียมสูงควรกินอาหารที่ช่วยเสริมสร้างมวลกระดูกเช่น นมสด ไขมันต่ำ แคลซียม, ปลาเล็กปลาน้อย, ผักใบเขียว ปลาเล็กปลาน้อย ทางที่ดีควรรับประทานร่วมกับน้ำส้ม หรือน้ำผลไม้ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี เพื่อจะได้มีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียม ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีกรดยูริกและพิวรีนสูง เช่น เครื่องในสัตว์ ปลาดุก เนื้อไก่ ยอดผัก เช่น ชะอม และรับวิตามินดีจากแสงแดดเป็นประจำ  หาเวลารับแสงแดดสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ช่วงเวลาที่เหมาะสม ได้แก่ 08:00 – 10:00 น. และ 15:00 – 17:00 น.

Cr.pic; https://www.khonkaenram.com/

2. ควรงดสูบบุหรี่ และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดในบุหรี่จะมีสารนิโคดินที่ทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้น้อยลงและยังทำลายการสร้างกระดูกอ่อนอีกด้วย ส่วนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำให้มวลกระดูกเสื่อมได้และยังทำให้ร่างกายขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะมากเกินไปอีกด้วย

Cr.pic; https://www.khonkaenram.com/

4. เลือกทานอาหารเสริมจากสารสกัดธรรมชาติ เช่น น้ำมันปลา, Astaxanthin จากสาหร่ายแดง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่มีส่วนช่วยในการลดการอักเสบของกระดูก และอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย รวมทั้งยังช่วยลดการสูญเสียของมวลกระดูก บำรุงกระดูกให้เข็งแรง เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงด้วยวิตามิน วิตามินดี คอลลาเจนไทพ์ทู เป็นชนิดของคอลลาเจนที่เหมาะสมสำหรับการดูแลข้อต่อที่มีประสิทธิภาพสูง  อีกทางเลือกหนึ่งในการดูแลสุขภาพของข้อเข่า เพราะมีส่วนช่วยในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ช่วยเพิ่มระดับของกรดไฮยาลูโรนิค ช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำที่ชั้นผิว จึงทำให้ผิวกระจ่างใส

Cr.pic; https://www.khonkaenram.com/

5.ควรควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เพราะน้ำหนักตัวที่มากขึ้นทำให้ข้อเสื่อมได้ในอนาคต และควรปรับเปลี่ยนอิริยาบถ และปรับเปลี่ยนอิริยาบถให้ช้าๆและถูกต้อง ป้องกันอาการหน้ามืดขณะเปลี่ยนท่า ควรหาโอกาสขยับตัว ยืดเส้น ยืดสาย

     กระดูกเสื่อม ป้องกันได้ เพียงแค่เราใส่ใจสุขภาพ ดูแลตนเองตั้งแต่การเลือกรับประทานอาหาร เช่น ช็อกโกแลต มะเขือเทศ องุ่น ถั่ว มีสารเรสเวอราทรอล ชะลอการทำลายคอลลาเจนในกระดูกอ่อน  สาหร่ายสีน้ำตาลในแกงจืด มีสารที่ช่วยลดการทำลายผิวข้อของกระดูก ยับยั้งสารทำลายกระดูกอ่อน  น้ำทับทิม ลดการปวดเข่า และเลือกการออกำลังกาย

ติดตามบทความ good health ในทุกสัปดาห์ได้ที่ howto-healthy.com

Categories
good food

9 เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ป้องกันโรค

การดื่มเครื่องดื่มที่ดีมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายจะช่วยเสริมให้เรามีสุขภาพกายที่แข็งแรงมากขึ้น พร้อมทั้งยังช่วยให้เรามีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นได้ด้วย เพราะว่าเมื่อใดก็ตามที่เรามีสุขภาพที่แข็งแรงแล้วเราจะรู้สึกสบายตัวสบายใจสดชื่นแจ่มใสพร้อมที่จะต่อสู้กับปัญหาทุกๆอย่างที่เข้ามาในชีวิตได้อย่างดีมากขึ้นไปด้วยนั่นเอง

ดังนั้นการเลือกเครื่องดื่มที่เราจะดื่มในแต่ละวันจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากพอๆกับการที่เราจะต้องไปพบคุณหมอเพื่อตรวจสุขภาพ หรือรักษาอาการเจ็บป่วยของร่างกายทีเดียว ในบทนี้จึงขอนำ 9 เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ป้องกันโรค มาฝากทุกคนกัน ใครอยากทราบแล้ว ว่ามีเครื่องดื่มอะไรบ้าง เรามาติดตามไปพร้อมๆกันเลย

  1. น้ำเปล่า ช่วยขจัดสารพิษ

น้ำเปล่าคือเครื่องดื่มที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายมากที่สุด เพราะว่าน้ำเปล่ามีหน้าที่ในการลำเลียงสารอาหารไปยังเซลล์ต่างๆภายในร่างกาย อีกทั้งยังมีส่วนในการช่วยขจัดสารพิษภายในร่างกาย และช่วยปรับระดับอุณหภูมิในร่างกาย ซึ่งในแต่ละวันๆ เราควรจะดื่มน้ำเปล่าให้ได้วันละ 8 แก้ว หรือประมาณ 1.5 ลิตร

  • โยเกิร์ต ช่วยขจัดสารพิษ

โยเกิร์ตมีทั้งสารแคลเซียมและโพแทสเซียม ซึ่งเป็นสารที่มีความสำคัญต่อน้ำในร่างกาย ช่วยในการบำรุงสายตา และผิวหนัง อีกทั้งยังช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดีด้วย

  • นม ช่วยเสริมความแข็งแรงของกระดูก

นมนั้นอุดมไปด้วยแคลเซียมสูงและโปรตีนที่ง่ายต่อการย่อย ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้ดี อีกทั้งยังมีกรดไขมันที่ช่วยทำให้เส้นเลือดเกิดการยืดหยุ่นดีอีกด้วย

  • ชา ช่วยป้องกันโรคฟันผุ

ชานอกจากจะช่วยในการป้องกันโรคมะเร็งกระเพาะอาหารและมะเร็งลำไส้แล้ว ยังมีส่วนช่วยป้องกันฟันผุได้อีกด้วย เนื่องจากชาเขียวและชาดำมีสารฟลูออไรด์ปริมาณมาก จึงช่วยป้องกันฟันผุได้ดี ควรดื่มชาอุ่นๆ ไม่ควรดื่มชาที่เหลือค้างคืน

  • น้ำลูกแพร์ ช่วยป้องกันความเครียด

ลูกแพร์มีกรดโฟลิกสูง ที่ช่วยทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนแห่งความสุข ทำให้เรามีอารมณ์ที่สดใสร่าเริง และช่วยป้องกันความเครียดได้ดี

  • น้ำแอปเปิล ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง

น้ำแอปเปิลช่วยให้ร่างกายฟื้นคืนพลังและมีสมาธิได้ดี แถมยังช่วยป้องกันโรคมะเร็งอีกด้วย แอปเปิลที่เราใช้ในการทำเป็นเครื่องดื่มสุขภาพนั้น ไม่ควรเป็นแอปเปิลที่ผ่านการแว็กซ์ หรือหากไม่มั่นใจว่าแอปเปิลที่ใช้ผ่านการแว็กซ์หรือไม่ แนะนำให้ปอกเปลือกทิ้งจะดีที่สุด

  • น้ำมะเขือเทศ ช่วยป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก

น้ำมะเขือเทศช่วยป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก เนื่องจากมะเขือเทศมีสารไลโคปีนที่ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง และป้องกันไม่ให้ผิวแก่ก่อนวัยอีกด้วย แนะนำให้มะเขือเทศผ่านความร้อนก่อนเอามาทำเป็นเครื่องดื่ม เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายได้รับไลโคปีนมากขึ้น

  • น้ำแครอท ช่วยบำรุงสายตา

ดื่มน้ำแครอทช่วยบำรุงสายตา ทั้งนี้ควรกินอาหารที่มีไขมันหลังจากดื่มน้ำแครอท เพื่อให้การดูดซึมวิตามินเอจากแครอททำงานได้ดียิ่งขึ้น แต่ก็ไม่ควรดื่มมากจนเกินไป เพราะจะทำให้วิตามินเอถูกกักเก็บไว้ในตับ

  • น้ำผักสด ช่วยป้องกันโรคอ้วน

น้ำผักสด จัดเป็นเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลต่ำกว่าน้ำผลไม้สด เหมาะสำหรับใครที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างมาก โดยเครื่องดื่มชนิดนี้แนะนำให้เลือกใช้ผักสดปลอดสารพิษ เอามาปั่นหรือคั้นโดยไม่เติมน้ำตาล จะส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายอย่างมาก

นี่ก็คือ 9 เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ป้องกันโรค ที่นำมาฝากกัน ลองนำไปเป็นทางเลือกในการดื่มเครื่องดื่มเพื่อบำรุงสุขภาพ ในแต่ละวันของเรากัน แล้วในบทหน้าเรามาพบกันใหม่กับเคล็ดลับเรื่องสุขภาพที่จะไปสรรหามาฝากกันอีกได้ในทุกสัปดาห์ จะเป็นเคล็ดลับสุขภาพเรื่องอะไรกันบ้าง ต้องมาติดตามกันต่อ

ติดตามบทความ good food ในทุกสัปดาห์ได้ที่ howto-healthy.com

Categories
good health

ไต อวัยวะสำคัญที่คุณควรดูแล

ไตมีหน้าที่สำคัญในการขับของเสียในร่างกายออกทางปัสสาวะเป็นของเสียที่มาจากการทำงานของอวัยวะต่างๆมาจากการเผาผลาญอาหารในร่างกายนอกจากนั้นใดยังสร้างสารพี่ควบคุมความดันโลหิตและสารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงกำจัดสารพิษสารเคมีออกจากร่างกายอีกด้วย

      ถ้าเกิดภาวะไตวายไตหยุดทำงานเราจะมีอาการเบื่ออาหารคลื่นไส้อาเจียนอ่อนเพลียโลหิตจางกระดูกผุ น้ำท่วมปอดของเสียตกค้างในกระแสเลือดเกิดอาการปัสสาวะน้อยปัสสาวะลำบากความดันโลหิตสูงปริมาณน้ำและเกลือแร่ในร่างกายผิดปกติทำให้มีอาการบวมที่มือและเท้า ท้ายที่สุดจะส่งผลเสียต่ออวัยวะอื่นๆให้หยุดทำงานและเสียชีวิตได้

สาเหตุของโรคไตวายที่พบบ่อยมาจากโรคเบาหวานโรคความดันโลหิตสูงโรคไขมันในเส้นเลือดสูงโรคเก๊าท์และนิ่วในไต

มาดูอาหารบำบัดที่จะช่วยชะลอความเสื่อมของไตและอาหารที่ควรเลี่ยงมีดังต่อไปนี้

ผักที่มีโพแทสเซียมไม่สูงสามารถรับประทานได้ : ถั่วฝักยาว ถั่วลันเตา ถั่วงอก แตงกวา บวบ มะระกะหล่ำปลี ผักกาดหอม ผักบุ้ง ฟัก มะเขือยาว เห็ดหูหนู

ผักที่ควรหลีกเลี่ยง : คะน้า กวางตุ้ง ดอกกะหล่ำบล็อคโคลี่ ขึ้นฉ่าย ผักชี แครอท ฟักทอง มันฝรั่งเผือกข้าวโพด ถั่วลิสง ถั่วแระ หัวปลี

ผลไม้ที่ควรกิน/ไม่ควรกิน

ผลไม้ที่ควรเลือกรับประทาน : แอปเปิ้ล องุ่น ชมพู่เงาะ ลองกอง พุทรา มังคุด ส้มโอ สับปะรด แตงโม

ผลไม้ที่ควรหลีกเลี่ยง : มะม่วง กล้วย มะขามหวานมะปราง มะเฟือง ฝรั่ง ขนุน ทุเรียน น้อยหน่า ลำไย แก้วมังกร

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง

หลีกเลี่ยงอาหารที่มีฟอสฟอรัสสูง : ไข่แดง นม นมเปรี้ยว นมถั่วเหลือง โยเกิร์ต เต้าหู้ เนย คุกกี้

หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมสูง : อาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน หมูยอ ปลาเค็ม อาหารสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง ของหมักดอง ซอส ซีอิ๊วน้ำปลา เกลือ

เราควรหันมาดูแลบำรุงไตของเราตั้งแต่วันนี้ ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ และดื่มน้ำมากๆ

เพื่อสุขภาพที่ดี สำหรับเกล็ดความรู้เล็กๆน้อยๆที่เรานำมาฝากในวันนี้ เราหหวังว่าจะเป้นประโยชน์ต่อผู้อ่านเพื่อดูแลบำรุงไตของตัวเองให้ดีขึ้นต่อไปนะคะ

ติดตามบทความ good health ในทุกสัปดาห์ได้ที่ howto-healthy.com