พอย่างเข้าฤดูฝน เรามักจะได้ยินบ่อยๆ ว่ามีเด็กป่วยเป็นโรค “ไข้เลือดออก” กันเยอะ ซึ่งถ้าว่ากันตามจริงแล้ว โรคนี้ก็เป็นที่รู้จักกันมานานแล้ว แต่ปัจจุบันก็ยังไม่มียารักษาเฉพาะโรค และยังพบการระบาดอยู่เสมอๆ ในช่วงหน้าฝน โดยในอดีตนั้น เป็นโรคที่พบในเด็ก แต่ปัจจุบันพบในผู้ใหญ่มากขึ้น

ความรุนแรงของโรคนี้ มีตั้งแต่ไม่แสดงอาการเลย ไปจนถึงอาการรุนแรงถึงขั้นที่ทำให้เสียชีวิต ซึ่งที่ผ่านมา ผู้ที่ป่วยเป็นไข้เลือดออกขั้นรุนแรงนั้น ถือว่ามีน้อยมาก อย่างไรก็ตาม เราสามารถสังเกตอาการที่บ่งบอกว่า ผู้ป่วยอาจเป็นไข้เลือดออกที่รุนแรงได้ เพื่อการรักษาที่ทันการณ์ แต่ก่อนอื่นเราต้องมาทำความรู้จักกับโรคนี้ให้ดีเสียก่อน
สาเหตุของโรค
- โรคไข้เลือดออก มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ “ไวรัสเดงกี” สามารถติดต่อได้หากถูกยุงลายกัด โดยยุงมักจะวางไข่ในน้ำนิ่ง เช่น น้ำขังตามภาชนะในบ้าน หรือ น้ำขังในหลุมบ่อนอกบ้าน ซึ่งจะมีระยะฟักตัวประมาณ 5-8 วัน หลังจากถูกกัด

- เชื้อไวรัสเดงกีที่ว่านี้ ปัจจุบันมีด้วยกัน 4 ชนิด หากติดเชื้อชนิดใดชนิดหนึ่ง ก็จะมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อชนิดนั้นไปตลอด แต่จะมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อชนิดอื่นๆ ในช่วงระยะสั้นๆ ฉะนั้น หากใครที่เคยเป็นโรคไข้เลือดออกแล้ว ก็ยังมีโอกาสที่จะกลับมาเป็นได้อีก
อาการของโรค
- คนเป็นโรคไข้เลือดออก แต่ละคนจะมีอาการแตกต่างกันออกไป บางคนอาจเป็นไข้อย่างเดียว บางคนอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง (ใต้ชายโครงขวา) ปวดตัว ปวดหัว ปวดกระบอกตา บางคนอาจมีผื่นหรือจุดแดงขึ้น และบางคนอาจมีเลือดออกในบางจุด เช่น เลือดกำเดา เลือดออกตามไรฟัน หรือเลือดออกในทางเดินอาหาร

การป้องกันโรค
- วิธีป้องกันที่สำคัญและตรงจุดที่สุด คือป้องกันอย่าให้ยุงลายกัด และป้องกันไม่ให้ยุงลายมีที่วางไข่ เช่น อย่าให้มีน้ำขังตามหลุมบ่อในบริเวณรอบๆ บ้าน และควรปิดฝาภาชนะใส่น้ำให้หมด
เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนที่ใช้ป้องกันโรคไข้เลือดออกโดยตรง การรักษาจึงยังเป็นเพียงการรักษาตามอาการ ดังนั้น ในช่วงที่มีการระบาดของโรคมากๆ

อย่างในช่วงหน้าฝน หากใครเริ่มมีอาการไข้ จะต้องเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด เพราะหากเป็นโรคไข้เลือดออก จะได้รักษาอย่างถูกต้องและทันท่วงที ซึ่งหากมีสัญญานที่บ่งบอกถึงความรุนแรง เช่น อาเจียนมาก ปวดท้องมาก หรือมีเลือดออกมาก
จะต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อย่ารักษาตัวเองอยู่ที่บ้าน อย่างไรก็ตาม วัคซีนป้องกันไข้โรคไข้เลือดออก กำลังอยู่ในช่วงศึกษาวิจัย ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะสำเร็จและได้ใช้กันในอนาคต
ติดตามบทความ good health ในทุกสัปดาห์ได้ที่ howto-healthy.com