เฉาก๊วย หวานเย็นสีดำๆแต่อร่อยหอมหวานเย็นชื่นใจ
แก้กระหาย ลดระดับน้ำตาลในเลือด
เฉาก๊วยเป็นพืชชนิดหนึ่งซึ่งอยู่ในวงศ์ Labiatae วงศ์เดียวกับสะระแหน่ โหระพา และแมงลัก มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Mesona chinensis Bentham และเฉาก๊วย ภาษาอังกฤษจะเรียกว่า Grass Jelly เฉาก๊วยมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศจีนตอนใต้ แถบมณฑลกวางตุ้ง กวางสี และยูนนาน

นอกจากจะนำมาทำเป็นขนมหวานใส่กับน้ำแข็งไสเย็นชื่นใจแล้ว บางทีเราก็นำไปใส่ในนมสด ขนมหวานแบบอื่นๆ ไอศกรีมรสต่างๆให้มีรสชาติอร่อยมากขึ้น การที่เราทานเฉาก๊วยยังมีประโยชน์กับร่างกายของเรามากมายอีกด้วย บทนี้จึงขอนำคุณประโยชน์ของเฉาก๊วยที่มีต่อสุขภาพของเรามาฝากกันค่ะ ใครอยากทราบกันแล้ว มาติดตามไปพร้อมกันเลยค่ะ

-จากการคำนวณในใบเฉาก๊วยแห้ง 100 กรัม เฉาก๊วยจะมีคุณค่าทางโภชนาการ ดังนี้
– คาร์โบไฮเดรต 44.95%
– โปรตีน 8.33%
– ไขมัน 0.39%
– เถ้า 37.34%
– ใยอาหาร 24.06%
แต่ถ้าหากเราทานเฉาก๊วยกับน้ำเชื่อม แคลอรี่ของขนมหวานในปริมาณ 100 กรัมถ้วยนี้ก็คือ
– พลังงาน 18 กิโลแคลอรี
– โซเดียม 58 มิลลิกรัม
– คาร์โบไฮเดรตทั้งหมด 8.8 กรัม
– น้ำตาล 7 กรัม

ดังนั้นการที่เราจะทานเฉาก๊วยคู่กับน้ำเชื่อม หรือว่าจะเป็นเฉาก๊วยโบราณใส่น้ำตาลทรายแดงสักหนึ่งถ้วย แล้วส่วนใหญ่มักจะตามด้วยน้ำเชื่อมหวานๆข้นๆอีกต่างหากด้วยสิ เราก็คงมีความจำเป็นต้องจำกัดปริมาณการทานให้เหมาะสมกับวัยและก็โรคประจำตัวของเราด้วยนะคะเพราะเหตุว่าตัวเฉาก๊วยเองก็ผสมแป้ง แล้วยังนำมาใส่กับน้ำหวาน
ที่เรานำมาใส่เพิ่มความหวานอร่อยชื่นใจให้เฉาก๊วยเข้าไปอีก และถ้าใครใส่ทั้งน้ำเชื่อมและนมสดจืด แคลอรี่ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปอีกด้วยค่ะ ก่อนที่จะบอกถึงคุณประโยชน์ ขอเตือนเรื่องการจำกัดปริมาณในการทานก่อนแล้วกันนะคะ ร่างกายของเราจะได้รับคุณประโยชน์ที่เหมาะสมในการทานเฉาก๊วยค่ะ
-ส่วนด้านสรรพคุณทางยาของเฉาก๊วยนั้น มีมากมายจนไม่น่าเชื่อว่าเฉาก๊วยสีดำๆที่ใส่ในขนมหวานนี้จะมีประโยชน์ได้ถึงขนาดนี้ เรามาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
– แก้ร้อนใน
– ช่วยดับกระหาย
– บรรเทาอาการหวัด ลดไข้ตัวร้อน
– ช่วยขับเสมหะ
– แก้คลื่นไส้
– บรรเทาอาการเบื่ออาหาร
– แก้ปวดท้อง มวนท้อง
– ลดอาการกล้ามเนื้ออักเสบ
– บรรเทาอาการตับอักเสบ
– บรรเทาอาการไขข้ออักเสบ
– ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
และนอกจากนี้ทางวงการแพทย์แผนจีนยังแนะนำพวกเราเอาไว้อีกว่า เฉาก๊วยมีสรรพคุณทางยาที่ดีต่อคนเป็นเบาหวาน และความดันโลหิตสูง หากนำเฉาก๊วยมาต้มและดื่มเป็นประจำ อาการของโรคเหล่านี้จะบรรเทาอาการลงได้ แต่ก็ต้องจำกัดปริมาณน้ำตาลที่เติมลงไปในน้ำเฉาก๊วยให้เหมาะสมด้วย และถ้าหากใครใช้เป็นหญ้าหวานแทนได้ก็จะดีมากเลยค่ะ หรือว่าจะดื่มน้ำเฉาก๊วยในแบบที่เติมน้ำตาลน้อยๆก็ได้ค่ะ

และนี่ก็คือสรรพคุณและวิธีการทานเฉาก๊วยให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพของเรามากที่สุด ที่นำมาฝากกัน ก่อนที่เราจะทานเฉาก๊วยสักถ้วย ก็ขอให้เราพิจารณาให้ดีๆนะคะว่ามีความเหมาะสมกับเราไหม ควรทานปริมาณแค่ไหน หวานได้มากประมาณไหน จะได้รับประโยชน์ที่เหมาะสม แล้วในบทหน้าเรามาพบกับเรื่องสุขภาพที่จะนำมาฝากกันในทุกสัปดาห์นะคะ จะเป็นเรื่องอะไรกันบ้าง คอยติดตามกันค่ะ
ติดตามบทความ good food ในทุกสัปดาห์ได้ที่ howto-healthy.com
FB : Beauthy-healthy