คีโตเจนิก

คีโตเจนิก

คีโตเจนิก

ก่อนหน้านี้ เป็นที่รู้กันดีในกลุ่มผู้รักสุขภาพ และคนที่กำลังลดน้ำหนักว่า การกินอาหาร “คลีน” ซึ่งเป็นอาหารที่ผ่านการปรุงแต่งน้อยถึงน้อยมากๆ จนแทบจะไม่มีไขมันเลยนั้น ดีต่อการควบคุมน้ำหนักมากที่สุด แต่ช่วงหลังๆ มานี้ เรามักจะได้ยินอีกคำหนึ่งบ่อยขึ้น และดูเหมือนว่าจะมาแรงแซงหน้าการกินคลีนไปแล้ว นั่นก็คือการกิน “คีโต”

หลักของการ กินคีโต คือ การกินไขมัน เพื่อลดไขมัน แต่จะต้องกินไขมันที่ดีเท่านั้น ไม่ใช่ไขมันอะไรก็ได้ ส่วน อาหารคีโต ที่คนทั่วไปเรียกกันนั้น กล่าวโดยสรุปคือ อาหารที่กินเข้าไปแล้ว ทำให้ร่างกายรู้สึกเหมือนเราไม่ได้กินอาหาร จึงไปทำการสลายไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกายนั่นเอง

ระยะเวลาเห็นผล

การลดน้ำหนักด้วยวิธีการ กินคีโต หรือ คีโตเจนิก ไดเอท นั้น หากเทียบกับการกินอาหารไขมันต่ำอื่นๆ นับว่ามันดีกว่าจริงๆ แต่จะเห็นผลชัดเจนในระยะสั้น ซึ่งโดยทั่วไปคือในระยะ 6 เดือนแรก แต่ในระยะยาวนับว่าไม่แตกต่างกัน เพราะคนเราจะไม่สามารถทนกินอาหารแบบนี้ไปได้ตลอด

หากกินระยะยาวจะเป็นอย่างไร

เนื่องจากการกินคีโต เป็นการกินที่ได้สารอาหารไม่ครบถ้วน เช่น กินไขมัน กินโปรตีน ผลไม้บางชนิด และผักใบได้ แต่ห้ามกินผักที่เป็นหัว ข้าว แป้ง และน้ำตาลทุกชนิด ฉะนั้น ถ้าเราจะกินคีโตในระยะยาว จึงจำเป็นต้องเสริมสารอาหาร วิตามิน และเกลือแร่ที่ขาดไป และมีสิ่งที่ต้องระวังคือ เมื่อไหร่ที่กลับมากินคาโบร์ไฮเดรตอีก น้ำหนักก็จะกลับมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีงานวิจัยออกมาว่า คนส่วนใหญ่จะกินคีโตได้ผลดีอยู่ที่ไม่เกิน 2 ปี

ใครบ้างที่ไม่ควรกินคีโต

  • คนที่ห้ามเด็ดขาด คือคนเป็นโรคตับ
  • รองลงมาคือคนที่มีปัญหาเรื่องไต คนที่มีปัญหาเรื่องการเผาผลาญไขมัน มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูงมากๆ หรือมีไตรกลีเซอไรด์สูงมากๆ
  •  นอกจากนี้ คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้ ท้องอืดง่าย มีกรดไหลย้อน หากจะกินคีโต ก็ต้องระวังมากเป็นพิเศษ เพราะอาจจะทำให้อาการเหล่านี้กำเริบได้ง่ายกว่าคนปกติ
  • ส่วนคนที่เป็นเบาหวาน หากอยากจะกินคีโต จะต้องระวังเรื่องของยาที่ใช้ และอาจต้องมีการปรับยา ฉะนั้น ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวที่รักษาอยู่ก่อนกินคีโต

สำหรับคนที่อยากจะลองใช้วิธีกินคีโตเพื่อลดน้ำหนัก สิ่งที่ต้องจำไว้ให้ขึ้นใจคือ จะต้องลดอาหารกลุ่มที่เป็นคาร์โบไฮเดรตทั้งหมด โดยต้องกินให้น้อยกว่า 50 กรัมต่อวัน แต่สามารถกินไขมันเพิ่มได้ และควรต้องสำรวจตัวเองก่อนว่า มีโรคประจำตัวที่เป็นข้อห้ามสำหรับการกินคีโตบ้างหรือไม่

ติดตามบทความ good food ในทุกสัปดาห์ได้ที่ howto-healthy.com